รัก จน รวย - นิยาย รัก จน รวย : Dek-D.com - Writer
×

    รัก จน รวย

    รักของคนจนมันไม่ง่าย แต่สำหรับคนรวยเหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก โชคดีมันมักไม่เข้าข้างคนจน

    ผู้เข้าชมรวม

    1,767

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    29

    ผู้เข้าชมรวม


    1.76K

    ความคิดเห็น


    11

    คนติดตาม


    11
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    จำนวนตอน :  93 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  18 ก.ค. 66 / 14:37 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    (นามปากกา)   รบ  มีทยู   

                                                                

                                                          ตอนที่  1  ไชยโยๆๆคุณพ่อมาแล้ว

              ณ. ท้องทุ่งนาแห่งบ้านหนองแห้ง  ฟ้าฝนตกอย่างหนัก  อุแว้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   พร้อมกับเสียงฟ้าร้อง  แต่ก็แปลกไม่มีแสงของฟ้าเลยแม้นิดเดียว    คุณแม่เจ็บไหมคะ  ไม่เจ็บคะ เจ็บนิดเยวเอง พร้อมกับเอามือปาดเหงื่อเล็กน้อย ทันใดนั้นเสียงฟ้าก็เลิกร้อง อุแว้ๆๆๆๆๆ    เงียบๆลูกแม่ คุณแม่คะได้ผู้ชายนะคะ  เสียงร้องของเด็กน้อยก็หยุดร้องทันที  แปลกมาก ผิวสีเหลืองออกสีทองคือผิวของเด็กชายคนนี้  ผมสีดำสนิท ตาโต   ผิวเนียน   สวยงามจริงๆเกิดมาไม่เคยพบเห็น เสียงพูดของคนประมาณสิบคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน  คุณแม่เจ็บมากไหมคะ   นิดเดียวเองคะ คุณแม่พูด

                สามขวบแล้ว  แป๊บเดียวเอง สามขวบ แต่ว่าตัวเล็กกว่าเด็กรุ่นเดียวกัน   คุณแม่ คุณพ่อครับผมอยากได้ยานยนต์ คุณพ่อตกใจ  ร้องอุทานว่า ว้าว อะไรจะขนาดนั้น  คุณพ่อทำท่า งงๆ  เดี๋ยวพ่อจะไปซื้อให้   ไม่ๆต้นจะเอาเดียวนี้ พร้อมกับทำท่าทางขับยานยนต์ สีหน้าของต้นบ่งบอกถึงความสุขเต็มเปี่ยมเพราะจะได้ยานยนต์ วันนี้สนุกจังเลย บรื้นๆ  คุณพ่อเดินไปหยิบกุญแจรถ พ่อไปตลาดก่อนนะ เย้ๆ ผมจะได้ยานยนต์แล้ว สีหน้ามีความสุข แสดงความดีใจจนออกนอกหน้าของเด็กน้อยชื่อต้น  แสดงท่าทางขับยานยนต์ มาๆคุณแม่ขึ้นยานยนต์กับผม

              ไชยโยๆๆๆ  คุณพ่อมาแล้ว  ผมจะได้ยานยนต์แล้ว  ดีใจจังๆๆ พูดพลางวิ่งไปหาคุณพ่อ พ่อครับไหนยานยนต์ของผม ดุนี่ลูกยานยนต์ที่ลุกอยากได้ ทันไดนั้นเมื่อต้นมองเห็นสิ่งที่คุณพ่อนำลงมาจากรถสีหน้าของต้นเริ่มเปลี่ยนไปจากหน้าที่มีรอยยิ้มเปลี่ยนเป็นตรงกันข้ามจากมเมื่อวินาทีที่แล้ว ดูสีหน้าบึ้งตึง  หน้าเริ่มแดงขึ้นทันที ทำทีทำท่าทางเหมือนกับจะร้องให้ คุณพ่อครับนี่ไม่ใช่ยานยนต์ นี่มันรถเด็กเล่น  ไม่เอาๆๆ แล้วต้นหน้าแดงมากขึ้นตาเริ่มแดงมุมปากเริ่มขยับ คุณพ่อมองดูลูกชายแล้วคิดในใจว่าเฮ้ยลูกเราจะร้องให้ น้ำตาจะไหลออกมาแล้ว จะทำอย่างไรดีหนอเรา คุณพ่อนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง เลยพูดขึ้นกับลูกว่ายานยนต์บริษัทเขาผลิตไม่ทันครับลูก แต่พ่อจองให้ลูกแล้วนะ เมื่อเอกภพได้ยินพ่อพูดอย่างนั้น อาการเหมือนจะร้องไห้ก็เริ่มจางลงๆ คุณพ่อพูดจริงๆนะครับ  นั้นผมจะรอ  คุณพ่อนึกในใจว่า เฮ้ยแล้วจะให้เราไปหายานยนต์มาจากที่ไหนเหรอ นี่รถยนต์ของเล่นเด็กเจ้ายังไม่เอา พอดีตาทั้งคู่ของคุณพ่อเหลือบมองไปเห็นรถยนต์ยี่ห้อหนึ่งวิ่งผ่านมา พ่อคิดในใจว่าหรือลูกจะเอาแบบนี้ ของจริงเชียวหรือ 

                คุณพ่อครับผมจะจบมัธยมต้นแล้วผมจะเรียนต่อ ปวช.นะครับผมจะผลิตยานยนต์เองครับ คุณพ่อหามาให้ผมไม่ได้ ผมจะทำขึ้นเอง พูดพลางนึกในใจเห็นภาพยานยนต์ที่ตัวเองจะสร้างขึ้น เห็นภาพยานยนต์ที่ลอยล่องบนท้องฟ้าที่สูงมากๆ ลอยล่องไปในห้วงอากาศไปดาวต่างๆด้วยความเร็วกว่าเสียง ยานยนต์ของเขายืดหยุ่นได้ชนกับสิ่งใดก็ไม่พังชนหินชนภูเขา  แม้กระทั่งป้องกันความร้อนได้ดีมากความร้อนที่หลอมเหล็กก็ไม่สามารถทำอันตรายต่อยานยนต์ของเขาได้

                ผมเรียนจบ ปวช.ช่างยนต์แล้วครับคุณพ่อ ผมจะเรียนต่อ ปวส.ครับ  พ่อได้ฟังลูกพูดเช่นนั้น พ่ออึ้งอยู่สักครู่ใหญ่ พลางคิดอยู่ในใจว่า เงินอยู่ไหนหนอ เงินที่ส่งลูกจนจบ ปวช.ก็ยังใช้หนี้เขาไม่หมด ความในใจนั้นอยากให้ลูกเรียนต่อ  แล้วตอบลูกไปด้วยเสียงเบาๆแบบไม่มั่นใจว่า เดี๋ยวพ่อจะให้ลูกเรียนก็ได้  ส่วนต้นนั้นมองดูคุณพ่อแล้วพูดว่าคุณพ่อพูดแบบไม่จริงใจเลยครับ เฮ้อย่างนี้ผมคงจะผิดหวัง แน่ๆเลย คุณแม่ๆอยู่ไหนครับ ต้นพูดด้วยสีหน้ากังวลใจพร้อมถอนหายใจเล็กน้อย

              ช่วงค่ำของวันนี้ คุณแม่ครับผมหิวข้าว คุณแม่มีอาหารอะไรครับพูดแล้วพร้อมเดินไปหาคุณแม่ที่ทำอาหารอยู่ในครัว  ป้อกๆๆๆเสียงคุณแม่ทำอาหารอะไรครับเสียงดังๆ มีหมูย่างไหมครับพร้อมทั้งกวาดสายตาไปทั่วบริเวณครัว  ไม่เห็นอะไรเลย เฮ้ย พร้อมถอนหายใจดังๆ  คุณแม่ทำไมไม่ซื้อเนื้อหมูมาย่าง  ผมหิว ด้วยความที่คุณแม่พูดไม่ออก เพระไม่มีเงินซื้อ นึกในใจว่า มีเงินไม่ถึงหนึ่งร้อยบาทเลยลูกเอ๋ย วันนี้คุณพ่อก็ไปหาปลามาได้ตัวเดียวเล็กๆจนปัญญาแล้วลูกเอ๋ย แต่แม่ก็ไม่เอ่ยปากบอกลูกว่าไม่มีเงินซื้อเนื้อหมูมาทำอาหาร  ความจนทำไห้คนอย่างครอบครัวของเราไมได้กินอาหารดีๆเหมือนกับครอบครัวคนอื่นเขา  ลูกเอ๋ย มาๆลูกมาทานข้าวกัน ไหนน้องอยู่ไหน เรียกน้องมาทานข้าว  เมื่อต้นมองเห็นอาหาร บ่นไปว่า กินแต่ปลาป่น อยากกินหมู อยากกินพิซซ่าก็ไม่เคยกิน  คุณแม่ได้ยินคำพูดของลูกน้ำตาแทบจะไหล ได้แต่คิดในใจว่าลูกเอ๋ยแม่เกิดมาจน ดีแล้วที่มีข้าวกินไปวันๆ เสื้อผ้าใหม่ๆพ่อกับแม่ยังไม่เคยใส่เหมือนกับคนอื่นเขาเลยคิดไปน้ำตาก็ไหลออกจากดวงตาทั้งสองข้าง  คุณแม่ร้องให้ทำไมครับ แม่เอามือปาดน้ำตา พอดีมีแมลงบินเข้าดวงตาของแม่ แต่แมลงมันออกแล้วหละ พูดแล้วแม่ก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ

                ใกล้จะถึงเวลาที่เราจะได้ไปเรียนต่อแล้ว ไชโยๆๆๆ อีกไม่นานเราก็จะไปสมัครเรียนต่อแล้ว พูดพลางวิ่งพลางด้วยความดีใจ

                ใกล้ถึงวันจะพาลูกไปสมัครเรียนต่อแล้วนะพ่อ คำพูดของแม่พูดเสียงค่อนข้างเบา แล้วเราจะเอาเงินที่ไหนพาลูกไปสมัครเรียน คิดซิคะคุณพ่อ  พ่อเดินวนเวียนรอบแม่ ทำทีท่าทางกระวนกระวาย ในใจครุ่นคิด สองมือจับศีรษะเฮ้ยจะทำอย่างไงดีหนอ คิดไม่ออกๆๆ  ในเวลานั้นทางแม่ก็พูดขึ้นว่า พ่อพรุ่งนี้เราไปธนาคารกันไหม ทั้งครู่ทำท่าทางเหมือนจะร้องไห้ ดวงตาเล็กๆของคุณพ่อเริ่มแดง ส่วนคุณแม่กระพริบตาปิบๆ แล้วแอบสะอื้น

                เสียงไก่ขันปลุกคนในครอบครัว  เสียงแหลมๆเล็กๆลูกสาวเปล่งออกมา คุณแม่คุณพ่อเช้าแล้ว หนูหิวข้าว คุณแม่มาหุงข้าว หนูหิว สองผัวเมียงวยงง เช้าแล้วหรือ แม่ พ่อยังไม่ได้นอนเลย  แม่เองก็นอนไม่หลับเหมือนกัน ทั้งสองแอบร้องไห้ แม่อย่าร้องไห้ พ่อเหมือนกันนั่นแหละ ทั้งคู่ปาดน้ำตา อย่าร้องนะแม่อายลูก แม่ได้ฟังแทนที่จะหยุดร้องไห้ ตรงกันข้ามเหมือนยิ่งห้ามยิ่งยุ อือๆ  ในทันไดนั้น  คุณพ่อครับอีกสองวันแล้วนะคุณพ่อต้องพาผมไปสมัครเรียนในตัวเมือง  ไชโยๆเราจะได้เรียนต่อ ปวส.แล้ว ดีใจจังเลย มีความสุขจังเลย เราจะเป็นช่างผลิตยานยนต์ คุณแม่ยิ่งร้องให้มากกว่าเดิม พ่อเอ๋ยนี่แหละคนเรา ความจนต้องทำให้ทุกข์ ซึ่งต่างกันมากมายกับคนรวย พ่อขอโทษนะแม่ ที่พ่อพาแม่และลูกทุกข์จนแบบนี้ น้ำตาพ่อไหลรินลงบนแก้มสองข้าง แล้วทั้งสองคนก็มกอดกันร้องไห้

                หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว แม่บอกพ่อไปอาบน้ำ พ่อไปอาบน้ำเดี๋ยวจะสายนะ กว่าจะไปยืนรอรถสองแถว กว่ารถสองแถวจะมา รีบอาบๆ   ลูกๆรอพ่อกับแม่อยู่ที่บ้านนะ พ่อกับแม่จะเข้าไปในตัวอำเภอ แต่ไม่ได้บอกลูกว่าจะไปทำไม ในใจทั้งคู่ไม่อยากไห้ลูกรู้ว่าพ่อกับแม่จะไปยืมเงินธนาคารเป็นหนี้เขา บอกลูกด้วยอาการฝืน แกยิ้มเก็บอาการแต่ดวงตามีแต่สีแดง น้ำน้อยๆสามารถไหลรินออกจากดวงตาได้ทุกเวลา   คุณพ่อสตาร์ทรถเครื่อง มาแม่มา เดื๋ยวจะไม่ทันรถสองแถวคิวเช้า จะเอารถเข้าไปในตัวเมืองก็ไม่ได้ รถไม่มีทะเบียน ไม่มีแม้กระทั่งเงินต่อทะเบียนรถ พ่อบ่น

                สองผัวเมียเดินไปธนาคารหลังจากลงจากรถสองแถว  คุณพ่อใส่เสื้อแขนยาวตรงแขนมีรอยขาดเล็กน้อย ใส่รองเท้าแตะเก่าๆ ใส่กางเกงขาสั้น สีออกเทาดำมีรอยเย็บเต็มผืนผ้า ทั้งสองมองดูตัวเองด้วยความน้อยใจ   คุณลุงมาทำอะไรครับ เสียงจาก รปภ. ลุงว่าจะมาถามกู้เงินธนาคาร นั้นคุณลุงคุณป้าเชิญเข้าไปด้านในครับ ห้องเย็นๆที่ทั้งสองไม่เคยสัมผัส อย่างดีก็แค่เคยมีพัดลมเก่าๆ แต่ตอนนี้มันพังไปแล้ว สายตาทั้งสองคนไม่กล้าที่จะมองดูคนทั่วไปที่มาธนาคาร  เขาแต่งตัวดีทันสมัย เสื้อผ้าใหม่ กันทั้งนั้น 

                คุณป้าคุณลุงมีอะไรให้ผมรับใช้ไหมครับ เสียงจาก เจ้าหน้าที่ธนาคารเอ่ยถามขึ้นมา เอ่อๆๆๆ คือว่า ผมๆๆ  แม่พูดหน่อย คุณพ่อนั่นแหละพูด ด้วยอาการทั้งสองคนไม่กล้าตอบ เพราะอาการเขินอาย   เสียงจากรอบข้างต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อย่าอ้ำอึ้งซิคุณ  ผมว่าจะมายืมเงินครับหัวหน้า เชิญเข้ามาใกล้ๆผมครับ เชิญนั่งครับทั้งสองคน  จะยืมเงินไปทำไมครับ  ผมจะเอาไปให้ลูกชายเรียนต่อครับผม  คุณลุงคุณป้ามีที่ดินกี่ไร่ครับ  มีอยู่ 5 ไร่ครับ  ที่ดินน้อยเกินไปครับ อย่างนั้นให้คุณลุงคุณป้า ไปหาคนมาค้ำประกันมาสองคน  แค่นี้หละครับ  สีหน้าทั้งสองคนเหมือนจะร้องไห้   ทั้งสองรีบเดินออกมาจากธนาคาร  อาการนิ่งเงียบของทั้งคู่ไม่พูดคุยกันแม้สักคำเอาแต่ถอนหายใจ 

                กว่าจะเดินทางถึงบ้านก็ค่ำแล้ว   ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า เสียงนกกา ร้องกลับรังนอนเหมือนเสียงกำลังบอกว่าโลกนี้กำลังสับสนอย่างมาก เป็นงงๆ แบบไม่มีความมั่นใจในการกระทำของตนเอง คุณแม่คะ คุณแม่ซื้ออะไรมาให้หนูกินบ้างคะ เสียงถามจากลูกสาวทำให้น้ำตาของแม่มันไหลรินออกจาดดวงตา  ครั้นจะบอกลูกตรงๆก็ไม่กล้าเอ่ย สวรรค์เอ๋ยทำไมถึงไม่เมตตา ดวงชะตาเอ๋ยทำไมเป็นแบบนี้ คุณพ่อพูดบ่นกับตัวเองเบาๆ แล้วจะทำอย่างไรดีกับการดำเนินชีวิตของเราพูดไปน้ำตาไหลรินเล็กน้อย  ในใจนั้นได้คิดว่าขนาดพ่อแม่หิวน้ำยังไม่มีเงินซื้อกินเลยลูกเอ๋ย นี่แหละหนอความยากจน คนจนแทบไม่มีอะไรกิน คนรวยก็รวยล้นฟ้า โธ่ คุณพ่อถอนหายใจอย่างแรง

              เสียงจากแม่บอกพ่อว่าพ่อช่วยก่อไฟให้แม่หน่อย แม่จะไปเอาไข่ไก่มาต้มให้ลูกกินกับข้าว พูดเสร็จคุณแม่ก็เดินไปที่เล้าไก่ เดินไปทีรังไข่  แต่ก็เหมือนความโชคไม่ดี เมื่อวานนี้มีไข่อยู่หลายฟองแต่ทำไมวันนี้เหลือไข่อยู่หนึ่งฟอง น้ำตาคุณแม่ไหลรินอีกรอบ พร้อมกับการถอนหายใจที่ไร้ความหวัง หรือนี่จะเป็นเหตุบอกว่าความหวังข้างหน้าของแม่และพ่อและลูกจะไม่มีหวังแล้ว  พร้อมนำไข่ไปลงหม้อเติมน้ำเพื่อทำการต้ม  เมื่อต้มไข่เสร็จคุณแม่ก็เรียกลูกทั้งสองมากินข้าว ไข่หนึ่งฟองถูกทำการแบ่งครึ่ง ลูกทั้งสองคนนำข้าวเหนียวมาปั้นแล้วนำไปแตะกับไข่ไก่ พี่อย่าคุ้ยไข่ไก่มากนะจะไม่อิ่ม เสียงนี้ทำให้สะเทือนใจของคุณพ่อและคุณแม่เป็นอย่างมากจนคุณแม้องเดินหนีไปแอบร้องไห้หลังบ้าน

                เช้าตรู่ของวันใหม่ พ่อๆเสียงแม่เรียกพ่อ พ่อเราจะไปหาใครไปค้ำประกันเงินกู้ธนาคารให้เรา  อย่างนั้นเราไปหาป้านวลกันไหมแม่ ไปเดี๋ยวนี้เลยแม่ ทั้งสองคนเดินไปหาป้านวลท่าทางทั้งสองห่อเหี่ยว แม่ แม่ว่าป้านวลจะไปให้เราไหมแม่ พ่อพูดขึ้น  ให้ซิพ่อป้านวลใจดีออก

                ถึงหน้าบ้านป้านวล  ป้านวลๆๆอยู่ไหม ใครเรียก  อ๋อแม่ต้นนั่นเองมาๆ ขึ้นมาบนบ้าน  มาทั้งสองคนเลย มาธุระอะไรหรือ ๆๆ แม่พ่อเอกภพเงียบทั้งคู่  ว่าอย่างไร มีธุระอะไรกันหรือ เงียบอีก ต่างคนต่างสะกิดกัน เอ่อๆๆ มีอะไรกันหรือ อ้ำอึ้งอยู่ได้ ทางแม่เลยตัดสินใจพูด คือว่าๆฉันอยากให้คุณป้าช่วยเหลือฉัน ทางป้านวลเอ่ยขึ้นว่าอยากให้ป้าช่วยเหลืออะไร ป้าช่วยได้ทุกอย่าง  จริงหรือป้า ป้าใจดีมากเลย ทั้งสองดีใจมากเหมือนปานจะกระโดดกอดคุณป้า ทั้งสองคนมีความหวังแล้ว ลูกได้เรียนหนังสือแน่ๆเลย ทางป้านวลพูดต่ออีกว่าป้าช่วยได้ทกอย่างนั่นแหละ แม่ดีใจจังพ่อ พ่อก็ดีใจเหมือนกัน แม่พูดซิ เอ่อคือพวกฉันจะมาให้ทางป้านวลไปค้ำประกันเงินกู้กับทางธนาคารให้หน่อย  ทางป้าอึ้งไปสักครู่ บรรยากาศเริ่มตรึงเครียด สองผัวเมียรู้สึกใจหาย แตกต่างกันกับเมื่อห้านาทีที่ผ่านมา   อากาศทำไมถึงร้อนวูบวาบไปหมด สายตาทั้งคู่มองไปรอบบริเวณบ้าน ดอกกุหลาบภายในบ้านป้ายังไม่มีความสวยงามเลย  ร่างกายที่บอบบางผอมแห้งของคุณพ่อรู้สึกมึนชาไปทั้งตัว   มือที่หยาบกร้าน เหี่ยวแห้ง เนื่องจากการทำงานหนัก นำมือมาค้ำคาง พร้อมกระวนกระวาย หัวใจเต้นผิดจังหวะ พร้อมถอนหายใจอย่างแรง

              เอ่อคือว่า ป้าๆๆไปค้ำประกันเงินไห้คนอื่นแล้ว มันเต็มแล้ว  ป้าอยากค้ำให้อยู่นะ แต่มันเต็มแล้ว ถ้ามาเร็วกว่านี้นะป้าคงไปค้ำประกันให้ได้ อย่างไรเราพี่น้องกันป้าค้ำประกันให้ได้อยู่แล้ว น่าเสียดายเฮ้อ  คำพูดของป้าผู้ดูสง่างาม  ทำให้เหมือนมีมีดกรีดลงกลางใจทั้งสองผัวเมีย เหงื่อคุณพ่อไหลลงมาจากใบหน้าและในดวงตาที่เศร้าก็มีหยดน้าตาไหออกมาเหมือนกัน แต่ก็ไม่ให้มันออกมามากทั้งคูพยายามเก็บอาการเสียใจไม่ให้หลุดอาการเสียใจออกมา ทั้งสองผัวเมียพูออกมาพร้อมกันโดยที่ไม่ได้นัดหมายกัน นั้นคุณป้าพวกเรากลับก่อนนะ ร่างกายเหมือนสองผัวเมียแทบไม่มีแรงที่จะเดินต่อไปข้างหน้า ใบหน้าทั้งสองผัวเมียมีแต่หยดน้ำไหลออกมาเป็นระยะๆดวงตาที่เศร้าอยู่แล้วยิ่งเศร้ากว่าเดิมและแดงกล่ำ ไปแม่ เราไปหาคนใหม่  ร่างกายที่ผอมแห้งของคุณแม่ที่เดินจะไม่ตรงอยู่แล้วยิ่งกับเพิ่มความอ่อนมากขึ้น  แม่เป็นอะไร เสียงจากพ่อ พอสิ้นเสียงพ่อร่างที่ผอมแห้งของคุณแม่ก็เซถลาไปเหมือนปานพายุพัดอย่างแรง แต่ในเวลานี้ไม่ใช่ฤดูฝนที่จะมีพายุเข้า ดีที่พ่อคว้าร่างของคุณแม่ไว้ทัน เป็นอะไรๆ แม่

                แม่ไม่เป็นอะไรหรอก เสียงอันแผ่วเบาของแม่พูดออกมา สีหน้าของคุณแม่ซีดจากใบหน้าที่ดูออกจะดำเปลี่ยนเป็นหน้าที่เหลืองซีดเหมือนไม่มีเลือดในใบหน้า ดวงตาเหมือนคล้ายๆจะหลับ เพราะความกดดันจากการที่ถูกคุณป้าปฏิเสธ  สักครู่คุณแม่ก็เป็นปกติเหมือนเดิม ไปแม่เราลองไปหาคุณอาดูซิเผื่อคุณอาไปค้ำประกันให้ คุณพ่อชวนคุณแม่ ทั้งสองคนเดินทางไปหาคุณอา หลังจากที่ทั้งสองถกปฏิเสธจากคุณปาแล้วทำให้ทั้งคู่ไม่มีความมั่นใจในอนาคตข้างหน้าเลย แม่คิดว่าคุณอาคงไม่ให้เราเหมือนกับคุณป้านั่นแหละพ่อเอ๋ย

                พอทั้งสองเดินไปถึงที่บ้านของคุณอา  คุณอาครับอยู่ไหมครับ ๆ  อยู่ครับมีอะไรครับ    มาๆขึ้นมาข้างบนบ้านเลยครับ  ทั้งสองคนเดินขึ้นบนบ้านของคุณอา  มาอะไรครับทางงคุณอาถามขึ้นอีกครั้ง  ทั้งสองบ่ายเบี่ยงกัน คุณพ่อพูดเลย คุณแม่นั่นแหละ พูดมาเลย ทำไมดูสีหน้าท่าทางไม่ค่อยจะดีเลยทั้งคู่  เอ่อคือว่าคุณอาครับผมมีเรื่องอยาจะขอให้คุณอาช่วยเหลือครับ น้ำเสียงพูดเบาๆของพ่อเอ่ย คุณอาจนแทบจะไม่ได้ยิน

                มาเรื่องอะไรจะให้อาช่วยหรือ  คือว่าอย่างนี้ครับคุณอาผมไปติดต่อยืมเงินธนาคาร แต่ทางธนาคารบอกให้พวกผมไปหาคนมาค้ำประกัน  คุณอาช่วยไปค้ำประกันให้ผมได้ไหมครับ  เอ่อๆๆ คือว่าอาค้ำประกันเขาเต็มแล้ว   เสียใจด้วยนะ ถ้ามาเร็วหว่านี้คงทัน  เมื่อทั้งสองได้ยินคำพูดจากปากของคุณอา 

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น